เศรษฐกิจ-การลงทุน » ‘พาณิชย์-DITP’ นำคณะผู้ซื้อชาวญี่ปุ่น เซ็นสัญญาซื้อกล้วยหอมทองกลุ่มเกษตรกรอำเภอเสิงสาง  5 พันตัน มูลค่ากว่า 100 ล้าน

‘พาณิชย์-DITP’ นำคณะผู้ซื้อชาวญี่ปุ่น เซ็นสัญญาซื้อกล้วยหอมทองกลุ่มเกษตรกรอำเภอเสิงสาง  5 พันตัน มูลค่ากว่า 100 ล้าน

28 พฤศจิกายน 2023
1998   0

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP)นำคณะผู้ซื้อประเทศญี่ปุ่น “บริษัท พีแอนด์เอฟเทคโน จำกัด” จัดพิธีลงนามเซ็นสัญญาซื้อขาย “กล้วยหอมทอง” จากกลุ่มเกษตรอำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา  “บริษัท แปลงใหญ่กล้วยหอมทองสุขไพบูลย์ จำกัด”  จำนวน  5,000 ตัน มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท

วันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 ที่โรงแรมแคนทารีโคราช  จังหวัดนครราชสีมา กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP)กระทรวงพาณิชย์ ได้จัดให้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงการซื้อขายกล้วยหอมทองไทยสู่ตลาดญี่ปุ่น  ระหว่าง บริษัท พีแอนด์เอฟ เทคโน จำกัด (ผู้นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น) กับ บริษัท แปลงใหญ่กล้วยหอมทองสุขไพบูลย์ จำกัด (กลุ่มเกษตรกรอำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา) เป็นจำนวน 5,000 ตัน คิดเป็นมูลค่าถึงกว่า 100 ล้านบาท

พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงการซื้อขายกล้วยหอมทองไทยสู่ตลาดญี่ปุ่น ระหว่าง บริษัท พีแอนด์เอฟ เทคโน จำกัด โดยนางพิมใจ มัสซูโมโต้ กรรมการผู้จัดการ กับ บริษัทแปลงใหญ่กล้วยหอมทองสุขไพบูลย์ จำกัด โดยนายสมศักดิ์  แสงรัมย์ กรรรมการผู้จัดการ

ทั้งนี้มีนายกองตรี  พิสิษฎ์ พิพัฒนวิไลกุล ที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์, นางสาวณัฐิยา  สุจินดา รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ, นายฉันทพัทธ์  ปัญจมานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโตเกียว, นายสยาม  ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา, พาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา, พาณิชย์จังหวัดขอนแก่น, พาณิชย์จังหวัดอุดรธานี ร่วมเป็นสักขีพยานพิธีลงนามในครั้งนี้

นางสาวณัฐิยา  สุจินดา รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “พิธีในวันนี้นั้น เกิดขึ้นตามการผลักดันภายใต้นโยบายกระทรวงพาณิชย์  ของรองนายกและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายภูมิธรรม  เวชยชัย ซึ่งให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการลดค่าใช้จ่าย เพิ่มรายได้ และขยายโอกาส โดยเน้นการรดน้ำที่รากดูแลคนตัวเล็กโดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเกษตรกร โดยให้ใช้การทำงานเชิงรุกและบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างพาณิชย์จังหวัดและทูตพาณิชย์ รวมทั้งให้เร่งใช้ประโยขน์จากผลของการเจรจา FTA ที่มีอยู่ มาใช้ในการผลักดันให้มีปริมาณการส่งออกของสินค้าไทยสู่ตลาดโลกได้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

ซึ่งในส่วนของการส่งออกกล้วยนั้น ประเทศไทยเองก็ได้รับสิทธิประโยชน์   จากกรอบความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย – ญี่ปุ่น (JTEPA) ซึ่งยกเว้นภาษีให้กล้วย  จากประเทศไทยเป็นจำนวน 8,000 ตันต่อปีอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาเราเองกลับใช้ประโยชน์ได้  ไม่ถึงครึ่งของโควต้าดังกล่าว จึงเห็นว่าเป็นโอกาสอันดีในการเพิ่มการส่งออกกล้วยผ่านช่องทางดังกล่าวนี้ตามนโยบายที่ได้รับมาจนในวันนี้เราก็สามารถสร้างผลลัพธ์เร่งด่วนในแบบ  Quick win ได้สำเร็จภายใน 100 วันด้วยยอดขายได้ถึง 100 ล้านบาทเลยทีเดียว”

นายฉันทพัทธ์  ปัญจมานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ  ณ กรุงโตเกียว กล่าวถึง ที่มาของการเซ็นสัญญาสั่งซื้อกล้วยจำนวน 5,000 ตันของผู้ซื้อชาวญี่ปุ่นในครั้งนี้ว่า หลังจากที่ได้จับมือทำงานบูรณาการร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา  เพื่อมุ่งขยายตลาดกล้วยไทยในประเทศญี่ปุ่นแล้ว   ตนก็ได้นำผู้เชี่ยวชาญด้านกล้วยชาวญี่ปุ่นลงพื้นที่ไปยังจังหวัดนครราชสีมา เพื่อพัฒนาเทคนิคการปลูกให้กล้วยในพื้นที่ให้มีคุณภาพและปริมาณตามความต้องการของตลาดญี่ปุ่นโดยทันที

“นอกจากนี้แล้ว ทางสำนักงานเองได้รับข้อมูลมาว่า กล้วยหอมของไทยนั้นเป็นพันธุ์กล้วยหอมทองซึ่งนอกจากจะมีรสชาติที่อร่อยแล้ว ในปัจจุบัน เรายังเป็นแหล่งผลิตที่ยังคงหลงเหลืออยู่เพียงแห่งเดียวในโลกอีกด้วย จึงได้ใช้เป็นหนึ่งในจุดขายในการทำการตลาดกับผู้นําเข้าชาวญี่ปุ่น และเมื่อได้พาคณะผู้ซื้อชาวญี่ปุ่นไปเยี่ยมชมสวนกล้วยที่ได้รับการพัฒนาและได้ลองชิมผลผลิตแล้ว ต่างก็พอใจเป็นอย่างมาก จนทำสัญญาซื้อขายในทันที ซึ่งโดยส่วนตัวเชื่อว่ากล้วยไทยจะยังสามารถขยายตลาดได้มากกว่าโควต้า 8,000 ตันต่อปีที่ไม่มีภาษีได้อีกอย่างแน่นอน”    ทูตพาณิชย์ประจำประเทศญี่ปุ่น กล่าวเสริม

นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา  เปิดเผยว่า “อำเภอเสิงสางเป็นแหล่งผลิตกล้วยหอมทองที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัด โดยมีพื้นที่เพาะปลูกกล้วยหอมทองถึง 1,350 ไร่ และมีปริมาณผลผลิตได้ถึง 8,100 ตันต่อปี  มีเกษตรกรที่มีพร้อมร่วมพัฒนาเพื่อการส่งออกไปประเทศญี่ปุ่น จำนวน 85 ราย ดังนั้น จึงเพียงพอต่อเป้าความต้องการของตลาดญี่ปุ่นในปีหน้าอย่างแน่นอน และไม่เพียงเท่านี้ ด้วยศักยภาพของเกษตรกรในจังหวัดที่ได้รับการพัฒนาและเชื่อมโยงตลาดญี่ปุ่นโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ นำทีมนักวิจัย ผู้เชี่ยวชาญ ลงพื้นที่ให้ความรู้ มีความพร้อมในการเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกเพื่อรองรับความต้องการตลาดหากมีความต้องการเพิ่มขึ้นในอนาคตได้อีกด้วย 

“การลงนามบันทึกข้อตกลงการซื้อขายกล้วยหอมไทยสู่ตลาดญี่ปุ่นครั้งนี้ จะเป็นการเพิ่มช่องทางจำหน่ายกล้วยหอมทอง อำเภอเสิงสางจังหวัดนครราชสีมา ให้กับเกษตรกรผู้ปลูก และเป็นการประชาสัมพันธ์ผลไม้ของไทยที่มีคุณภาพส่งออก เพื่อให้ต่างชาติได้รับทราบ และเป็นการผลักดันให้เศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้มีความมั่งคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ต่อไป” ผู้ว่าราชการจังหวัดนคราชสีมา กล่าว

อนึ่ง นอกจากจังหวัดนครราชสีมาแล้ว ทางสํานักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโตเกียว ยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการส่งออกกล้วยจากภูมิภาคอื่นๆเพิ่มเติม อาทิ จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดพัทลุง  และยังเปิดกว้างสำหรับภูมิภาคอื่นๆอีกด้วย ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสำนักงานพาณิชย์จังหวัดในพื้นที่ หรือติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ www.ditp.go.th หรือสายด่วน 1169